สำหรับชีวิตที่ก้าวสู่วัยทำงาน ปัญหาหนึ่งที่บอกได้ว่าเป็นปัญหาสุดคลาสสิกสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหางานมักจะต้องพบเจอ และทำให้ยากต่อการตัดสินใจก็คือ การเลือกทำงานระหว่างราชการกับเอกชน สมัครงานราชการอาจจะยากแต่ถ้าได้ก็มีความมั่นคงสูง ส่วนงานเอกชนก็มีจุดเด่นในเรื่องของฐานเงินเดือนที่สูงกว่า และมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพของเราได้มากกว่า
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ที่กำลังเผชิญปัญหาแบบนี้ กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องเลือกว่า ฉันควรจะสมัครงานราชการหรือไปลุยสมัครงานกับบริษัทเอกชนดี งานภายใต้องค์กรแบบไหนที่จะเหมาะกับตัวคุณ เรามีคำแนะนำในเรื่องนี้มาฝาก
โครงสร้างขององค์กรและระบบการทำงาน
สิ่งที่จะแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยสำหรับงานภาคราชการกับงานภาคเอกชนก็คือ โครงสร้างขององค์กรและระบบการทำงาน
งานราชการ: โครงสร้างขององค์กรจะมีสายการบังคับบัญชาอย่างชัดเจน นั่นจึงทำให้งานในทุกขั้นตอนจะเป็นไปตามลำดับสายบังคับบัญชา ไม่สามารถที่จะข้ามหรือลัดขั้นตอนได้ ตรงนี้ก็อาจเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเองของราชการ ซึ่งคนที่จะสมัครงานราชการควรทำความเข้าใจให้ดี
งานเอกชน: โครงสร้างขององค์กรจะเป็นไปแบบหลวม ๆ และยืดหยุ่น มีหัวหน้าทีม แต่ระบบการทำงานไม่จำเป็นต้องรอหัวหน้าทีมตัดสินใจ อะไรที่สามารถลงมือทำได้เอกชนจะให้โอกาสพนักงานตัดสินใจทำแบบลัดขั้นตอนได้เลย เพื่อความรวดเร็วของงาน
การแข่งขันในสายงาน
ในโลกของการทำงานนั้นมักจะมีการแข่งขันเป็นเรื่องธรรมดา แต่การแข่งขันระหว่างงานราชการกับเอกชนนั้นมีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน
งานราชการ: การแข่งขันนั้นจะแข่งขันสูงจะเป็นไปในตอนแรกคือเป็นการแข่งขันสมัครงานราชการ แต่เมื่อใครสอบผ่านได้เข้าทำงานแล้ว การแข่งขันในการทำงานนั้นจะน้อยลง และแทบจะไม่มีการแข่งขันเลยก็ว่าได้ จึงอาจจะทำให้รู้สึกกดดันน้อยกว่า
งานเอกชน: จะมีการแข่งขันสูงตั้งแต่เรื่องการสมัครเข้าทำ ยิ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่มีชื่อเสียงการแข่งขันยิ่งสูง และเมื่อเข้าทำงานแล้ว การแข่งขันก็ยังคงสูงอยู่ทั้งการแข่งขันกันเองในองค์กรและการแข่งขันกับบริษัทคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน จึงทำให้งานเอกชนมีความกดดันในการทำงานมากกว่า ต้องเร่งมือ ต้องเร็ว ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
ความก้าวหน้าและมั่นคง
ไม่ว่าจะสมัครงานราชการหรือสมัครเข้าทำงานกับเอกชนก็ตาม ทุกคนก็ต้องการความก้าวหน้าและมั่นคงในอาชีพของตนเอง ซึ่งสายงานทั้งสองนี้ก็จะมีความแตกต่างกัน
งานราชการ: ด้วยระบบโครงสร้างองค์กรและระบบการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอน จึงทำให้ผู้ที่ทำงานในส่วนราชการมีโอกาสเติบโตช้า ทั้งตำแหน่งและเงินเดือน แต่ด้วยสวัสดิการและความมั่นคงของหน่วยงานเป็นสิ่งที่ทำให้การอยู่ในงานราชการมีความมั่นคงสูง
งานเอกชน: มีโอกาสก้าวหน้าและเติบโตได้เร็ว ฐานเงินเดือนมีโอกาสเพิ่มเร็ว แต่บางบริษัทอาจจะให้สวัสดิการพนักงานไม่ครอบคลุม หรือ ถ้าเป็นบริษัทเล็ก ๆ บางแห่งก็ไม่มีสวัสดิการให้เลย เพราะรูปแบบการจ้างงานเป็นแบบอิสระ รวมไปถึงหากบริษัทมีผลประกอบการไม่ดีติดต่อกันนาน ๆ ก็อาจปิดตัว จนทำให้พนักงานต้องตกงานได้
ทุกคนคงได้เห็นกันแล้วว่างานราชการกับงานเอกชน แตกต่างกันอย่างไร ทั้งคู่ก็มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง ลองประเมินตัวเองดูว่า ตนเองมีสไตล์อย่างไร แล้วจะรู้ว่าคุณควรเลือกสมัครงานราชการหรือเข้าทำงานกับภาคเอกชนมากกว่ากัน